Business

ทำเว็บไซต์ยังไงก็ไม่เห็นผล ถ้าไม่เข้าใจสิ่งนี้ (เพิ่มรายได้ด้วยเว็บไซต์)

Jerome Tana

Jerome Tana

8 สิงหาคม 2568

ทำเว็บไซต์ยังไงก็ไม่เห็นผล ถ้าไม่เข้าใจสิ่งนี้ (เพิ่มรายได้ด้วยเว็บไซต์)
เว็บไซต์ที่ดีไม่ควรแค่ "สวย" หรือ "น่าเชื่อถือ"
แต่มันควร สร้างรายรับให้คุณได้แบบอัตโนมัติ

ผมเจอหลายคนจ้างทำเว็บไซต์ไปเป็นแสน
แล้วก็เอามาปล่อยไว้เฉย ๆ เหมือนเป็นเครื่องประดับแบรนด์ ไม่ได้ใช้ทำอะไรต่อ
สุดท้ายก็มองว่า “ทำเว็บไม่คุ้ม” หรือ “เสียเงินฟรี” แถมเสียเวลา เสียเงินไป maintenance อีก

แต่ความจริงคือ…
เว็บไซต์มันไม่ได้ผิดหรอกครับ แค่คุณยังใช้มันไม่ถูกวิธี

จุดเริ่มต้นของความเข้าใจผิด

หลายธุรกิจ โดยเฉพาะ SME หรือ Creator มักมองเว็บไซต์เป็น:

  • หน้าร้านออนไลน์ไว้ให้คนดูว่าเรามีตัวตน
  • ช่องทางเสริมไว้แปะโปรไฟล์หรือ ลิ้งแอด LINE
  • Portfolio เก็บผลงานหรือบริการให้ดูน่าเชื่อถือ

ซึ่งมันก็ถูกนะครับ แต่ยังไม่พอ เพราะถ้าใช้แค่นั้น เว็บไซต์ก็แค่ของประดับ

แล้วเว็บไซต์แบบไหนถึงจะช่วยทำเงิน?

เว็บไซต์ที่ดีควรทำหน้าที่เหมือนพนักงานขายเก่ง ๆ คนหนึ่ง
ที่

  • ตอบคำถามลูกค้าเบื้องต้น
  • อธิบายสินค้า/บริการแทนคุณ
  • ดึงความสนใจ และเปลี่ยนคนไม่รู้จักให้เป็นลูกค้า

เพื่อให้เว็บทำหน้าที่นี้ได้จริง คุณต้อง “ตั้งเป้า + วางระบบ” ให้มัน

คำนวณก่อนว่าทำเว็บไซต์แล้วคุ้มมั้ย

1. คิดเป้าหมายที่คุณอยากได้จากเว็บ

เช่น → อยากได้ลูกค้าใหม่ 5 ราย/เดือน

2. รู้ value ของลูกค้า 1 คน

เรียกว่า Customer Lifetime Value (CLV)
เช่น ลูกค้าคนหนึ่งใช้บริการเดือนละ 5,000 บาท ต่อเนื่อง 1 ปี
= 5,000 x 12 = 60,000 บาท

3. คำนวณผลตอบแทนจากเว็บไซต์

ถ้าเว็บทำให้ได้ลูกค้าใหม่เดือนละ 5 ราย
= 5 x 60,000 = 300,000 บาท/ปี

คุณจ่ายทำเว็บไซต์ 50,000 บาท
= คืนทุนใน 2 เดือน
ที่เหลืออีก 10 เดือนคือกำไรล้วน ๆ

หลังจากนี้แค่ต้องมาดูต่อว่า conversion rate ของเว็บไซต์เป็นกี่เปอร์เซ็น เพื่อคำนวณหาปริมาณ traffic ที่เหมาะสมสำหรับทำให้เป้าหมายเป็นจริง

แล้วจะทำเว็บให้ “ขายได้จริง” ต้องมีอะไรบ้าง?

1. Landing Page ที่ชัดเจน
เน้นนำเสนอเพียง 1 สินค้าหรือบริการ อย่าใส่ทุกอย่างในหน้าเดียวให้ลูกค้าสับสน

2. CTA ที่น่าเชื่อถือ + ชัดเจน
ใช้ข้อความเชิญชวนที่กระตุ้น เช่น
"ขอใบเสนอราคาฟรี" / "จองเวลาคุยผู้เชี่ยวชาญ"
ไม่ใช่แค่ "ติดต่อเรา"

3. กระบวนการซื้อที่เข้าใจง่าย (Process Section)
บอกให้ชัดเจนว่า “หลังจากกดปุ่ม จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
เช่น

  • กรอกแบบฟอร์ม
  • นัดพูดคุย วางแผน
  • เริ่มดำเนินการ

4. มีหลักฐานความน่าเชื่อถือ
เช่น รีวิวลูกค้า ผลงานที่ผ่านมา เคสตัวอย่าง พร้อมภาพจริง

5. ระบบติดตามผล (Tracking)
ใช้ Google Analytics, Meta Pixel, หรือ UTM tracking
เพื่อรู้ว่าเว็บคุณทำเงินจากช่องทางไหนได้ดีที่สุด แล้วคอยปรับปรุงเรื่อย ๆ

เปลี่ยนมุมมองจาก “ค่าใช้จ่าย” → “การลงทุน”

ถ้าคุณยังคิดว่า “ทำเว็บไปก็ไม่มีใครเข้า”
อาจเพราะคุณยังไม่ได้ใช้มันในแบบที่มันควรเป็น

เว็บไซต์คือทรัพย์สินที่สร้างผลตอบแทนได้เรื่อย ๆ
ต่างจากโพสต์โซเชียลที่หายไปใน 3 วัน
หรือลงโฆษณาที่หยุดเมื่อคุณหยุดจ่ายเงิน

ลงทุนครั้งเดียว ใช้ได้หลายปี
ปรับให้ดี ๆ เว็บจะทำเงินให้คุณอย่างต่อเนื่อง

ก่อนตัดสินใจทำเว็บไซต์

  • รู้เป้าหมายที่ต้องการจากเว็บไซต์
  • รู้มูลค่าของลูกค้าแต่ละคน
  • วางแผนการแปลงผู้ชม → เป็นผู้ซื้อ

หากคุณยังไม่มีเว็บไซต์ หรือมีอยู่แล้วแต่ยังไม่ทำเงิน
อาจถึงเวลาที่ต้อง “สร้างเว็บใหม่แบบที่มีแผนทำเงินตั้งแต่ต้น”

เว็บไซต์ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย ถ้าใช้งานได้ถูก มันคือ “การลงทุนที่คุณควบคุมได้เอง”

แชร์บทความนี้

Jerome Tana

Written by Jerome Tana

Author at WEBCRAFTSMAN

Jerome Tana is a dedicated member of the WEBCRAFTSMAN team, specializing in web development, digital marketing, and creating exceptional user experiences.

พร้อมให้บริการสำหรับเดือนธันวาคม

เริ่มต้นรับบริการง่าย ๆ ได้ทันที

กรอกแบบฟอร์มเพื่อขอใบเสนอราคาฟรี หรือปรึกษาเกี่ยวกับโปรเจกต์ของคุณ

  • ติดต่อกลับภายใน 24 ชั่วโมง
  • ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • ไม่มีข้อผูกมัด